วันพฤหัสบดีที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2555

Tomohon Town & Danau Tondano เมืองโตโมฮอนและทะเลสาบทอนดาโน

After we passed Woloan Village, finally we arrived at Tomohon Town. Tomohon Town we can see this monument and we also can see many horse cart (Bendi) again like Manado but in Tomohon, so many many of them. (We noticed that at both eyes of the horse will be closed with a small mask, and the horse will not see anything from beside but can see only at the front way, We thank that maybe it for making the horse not frightened to the horse when running on the road with may cars. At the monument here we turned to the way to Danau (Lake) Tondano. It still long way, we took nearly another 40 minutes to the lake. Before we reached to the lake it rained again, so we had to stop in a local restaurant we ordered Kopi (local coffee there) and paid for it just 3,000 Rp per glass (about 12 Thai Baht, The first we found the cheap thing here)



หลังจากผ่านหมู่บ้านโวโลอันที่ทำบ้านแบบน็อคดาวน์ (บ้านแบบน็อคดาวน์คือบ้านที่ สร้างเสร็จแล้วรื้อเก็บเอาส่วนประกอบทุกชิ้นของบ้านที่สร้างเอาไปขายที่ต่างประเทศ ส่งทางเรือ แล้วก็ไปประกอบให้ใหม่ที่ปลายทางด้วยครับ) แล้วเราก็จะมาถึงเมื่อโตโมฮอนครับ มีอนุสาวรีย์แบบในรูปอยู่ที่วงเวียนนะครับ ที่เมืองโตโมฮอนนี้จะมีรถม้าที่เรียกว่า เบ็นดี้ เยอะกว่าที่มานาโดซะอีกนะครับ เพิ่งสังเกตเหมือนกันว่าที่ตาของม้ามันจะมี คล้ายๆหน้ากากอันเล็กเล็กปิดตาด้านข้างของม้าอยู่ ซึ่งม้าจะมองเห็นเฉพาะด้านหน้าเท่านั้น เพื่อไม่ให้ม้าตกใจเวลาวิ่งบนถนนกับรถยนต์ทั่วไป การจะไปทะเลสาบทอนดาโนเราจะต้องเลี้ยวไปทางที่มีป้ายที่วงเวียนเลี้ยวซ้ายไปทางนั้นอีกประมาณ 40 นาทีกว่าจะถึงทะเลสาบครับ แต่ก่อนจะถึงทะเลสาบฝนเจ้ากรรมก็ดันตกมาอีกแล้วครับท่าน เบื่อจริงๆ ก็เลยต้องแวะร้านข้างทางหลบฝน สั่งเครื่องดื่มมาดื่ม ชื่อโกปี ที่จริงมันก็คือโกปีที่บ้านเรานี่แหละ มันก็คล้ายๆกาแฟคล้ายๆ โอเลี้ยงบอกไม่ถูกเหมือนกันครับ แต่กินเสร็จก็จ่ายไปแค่แก้วละ 3,000 รูเปียห์ ประมาณ 12 บาทไทย เพิ่งเจออะไรราคาถูกๆที่นี่เป็นครั้งแรกครับ



The next picture is showing you a view from the restaurant that we had the Kopi and at the front of the mountain in the picture is Tondano Lake. We left the reastaurant after the rain stopped and passed the village af Tondano people and the rice field. That was really beautiful picture. But look, another rain will come again very soon, So we had to rush to the lake as soon as possible.
ภาพต่อมาเป็นภาพที่ถ่ายจากร้านอาการที่เราไปกินโกปีครับ เบื้องหลังเป็นวิวของทะเลสาบทอนดาโนที่มองอยู่ด้านหน้าภูเขาที่อยู่ด้านหลัง เราออกเดินทางกันต่อ ผ่านหมู่บ้านผู้คนที่ทอนดาโน ผ่านทุ่งนาเขียวขจี สวยมากครับๆครับ ชอบจริงๆเลย แต่ดูสิครับ ฝนตั้งเค้ามาอีกแล้ว เมืองนี้น่าเบื่อที่สุดก็น้จะเป็นเรื่องฝนเนี่ยแหละ (ขอคอมเพลนซะหน่อย เพราะว่าเปียกมาทั้งวันแล้ว) ก็เลยต้องรีบไปให้ถึงทะเลสาบให้เร็วที่สุดครับ


This picture is the beautiful rice field that we passed before arrived the Tondano Lake, but in cloudy nearly rained.

ภาพนี้คือทุ่งนาที่เราผ่านก่อนจะถึงทะเลสาบทอนดาโนครับ สวยดี แต่ฟ้าครึ้มมากๆครับ ฝนกำลังจะตกลงมาอีกรอบแล้ว ต้องรีบๆ



We arrived at the lake, there were some restaurants along the lake's coast and we chose one reastaurant name Lour Camp (the owner said that it means " water" in Manadonese Language but we are not sure that what it exactly means?)
We ordered steamed rice, fried fish, fired vegetable and dabu dabu, that was very delicious meal for us because we were very hungry at that moment. We paid for the food here 54,000 Rp (about 216 Baht ) You can see the next picture what we had for this meal. In Tondano Lake while we were having lunch (in the late afternoon time), we saw many local people crossing the lake in the small boat in the rain. The boat there has 2 bamboo outriggers side to keep balance of the boat

เรามาถึงทะเลสาบทอนดาโนแล้ว มีร้านอาหารริมทะเลสาบตลอดทางเลย เราเลือกแวะที่ร้าน Lour Camp ถามเจ๊ผู้จัดการร้านแกบอกว่าแปลว่าน้ำ เป็นภาษาท้องถิ่นมานาโด แต่พอไปถามอันดา พนักงานที่โรงแรมเขาบอกว่าไม่ใช่ เลยไม่รู้ว่าแปลว่าอะไรกันแน่ หรือว่าที่โน่นมีหลายคำเป็นภาษาถิ่นเฉพาะกลุ่ม เฉพาะหมู่บ้านหรือเปล่าก็ไม่รู้ สั่งข้าวมากินด้วยความหิวเพราะเป็นอาหารเที่ยงตอนบ่ายแก่ๆแล้ว อร่อยมากๆ ข้าว ปลาทอด ผ้ดผัก แล้วก็ดาบู ดาบู กินแค่นี้แหละครับสองคน ปาเข้าไป 54,000 รูเปียห์ครับ แพงนะ แต่ก็ไม่เป็นไร อร่อยครับ หรือว่าเป็นเพราะหิวก็ไม่รู้ ระหว่างที่ทานข้าว ฝนก็ยังตกพรำๆไม่ขาดระยะ มองไปในทะเลสาบเห็นชาวบ้านที่นี่เขาเดินทางข้ามทะเลสาบกันด้วยเรือลำเล็กๆ ติดเครื่องยนต์ แต่จะมี ไม้ไผ่เป็นโครงยื่นออกไปทั้งสองด้าน เพื่อรักษาสมดุลของเรือไม่ให้คว่ำ แต่เรือแบบนี้เราก็หาดูได้ทั่วทุกที่ในอินโดนีเซียแหละ ที่บาหลีก็เคยเห็นเป็นแบบนี้เหมือนกันครับ



After lunch, we went back to Manado, we had to head back to Tondano Village, Tomohan Town and then Manado Town. The road betaween Tomohon and Manado was very difficult for us in the first time because we had to up the hill, down the hill along the road, many many mountains and it also rained. The distace is only about 30 Kms from Tomohon to Manado, but we took nearly 2 Hours to reach Manado. Very tired for the first day experience in North Sulawesi. When we arrived at the hotel, the owner of the motorbike had been waiting for us alreday. We thought that we charged us more because be came back later than 6:00 p.m. but he didn't. So, we were happy and planed to rent is motorbike again next morning.
หลังจากรับประทานอาหารเที่ยงเสร็จเราก็กลับมานาโดเลยครับเพราะเกือบ 5 โมงเย็นแล้ว ก็ต้องนั่งมอเตอร์ไซต์ผ่านหมู่บ้านที่ทอนดาโน ผ่านเมืองโทโมฮอน กอนถึงมานาโด ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตรระหว่างโทโมฮอนกับมานาโด แต่เราใช้เวลาเกือบสองชั่วโมง เพราะว่าฝนตก ถนนก็ขึ้นเขาลงเขา โค้งเยอะมากๆครับ ไปถึงโรงแรมเกือบ 1 ทุ่ม ลุงเจ้าของรถรออยู่แล้ว คิดว่าแกคงขอค่าเช่าเกินเวลาแน่ๆเลย แต่ว่าเปล่า แกไม่คิดค่าเกินเวลาครับ เราก็เลยคิดว่ารุ่งขึ้นจะใช้รถแกอีก


The last one is the picture of a house in Tondano Lake nearby the restaurant where we had lunch.ภาพสุดท้ายเป็นบ้านที่อยู่ในทะเลสาบทอนดาโนนะครับ ข้างๆร้านอาหารที่เราไปกิน

Next topic :
Visited Big Jesus Monument and Bukit Kasih บทความถัดไป : ชมอนุสาวรีย์พระเยซู และบูกิตกาซิห์
Previuos topic :
Rented a motorbike to see around Manado & Tomohon บทความก่อนหน้า : เช่ามอเตอร์ไซต์ขี่รอบเมืองมานาโดและโทโมฮอน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น