On Saturday 23rd May 2009 after we arrived at Celebes Hotel, we checked-in and rented a motorbike (100,000 Rp) to visit the places outside again. We had seen a brochure whice show was shown the picture of Kima Atas Waterfall (Air Terjun Kima Atas)
To go to Kima Atas Waterfall, we have to take the way to Sam Ratulangi Airport (Bandara Sam Ratulangi) about 20 minutes until we arrive at the T - junction which has the sign shows Tuminting and have to turn left along this way.
วันเสาร์ที่ 23 พฤษภาคม หลังจากที่เรากลับมาจากเกาะบูนาเค็นแล้ว เราก็เข้าเช็คอินที่โรงแรมเซลีเบสอีกครั้ง คราวนี้ได้ห้องที่เป็นห้องน้ำรวมแต่ราคาถูกกว่าคือแค่ แสนรูเปียห์ต่อคืน (ห้องเก่าคืนละแสนห้าหมื่นรูเปียห์) เช็คอิสเสร็จก็เช่ามอเตอร์ไซต์ตามเคยครับ วันละ แสนรูเปียห์ วันนี้เราจะไปน้ำตกคิมาอะตาสกันครับ น้ำตกนี้ไม่ได้อยู่ในแผนการของเราที่จะไป แต่เวลาว่างเยอะครับก็เลยไปเพราะเห็นรูปในโบรชัวร์ต่างๆก็ดูสวยดี การที่เราจะไปน้ำตกแห่งนี้เราจะต้องขี่มอเตอร์ไซต์ไปตามทางที่จะไปสนามบินซำราตุลางี (Bandara Sam Ratulangi) นะครับ ประมาณ 20 นาทีก็จะมาถึงสามแยกที่เขียนป้ายบอกว่าตูมินติง (Tuminting) ก็ให้เลี้ยวซ้ายไปตามทางนั้นเลยครับ
Not so far from the T-junction after you turn left you will arrive another crossroad and you will see the sign Air Terjun Kima Atas on the left, then you have to turn left here.
ไม่ไกลจาสามแยกแรกนักเราก็จะมาถึงสี่แยกเล็กนี้ซึ่งเราจะเห็นป้ายบอกไปน้ำตกให้เลี้ยวซ้ายครับ
After the asphalp road, it will be the dirt road then we had to find the signboad that telling the way until arrive at the waterfall.
หลังจากนั้นถนนก็เปลี่ยนเป็นทางลูกรังครับ แล้วก็ตามป้ายไปเรื่อยๆจนถึงน้ำตกครับ
We walked down a little bit then we can see the waterfall. Kima means Clam, Atas means Up.
เดินลงมานิดหน่อยก็จะถึงน้ำตกครับ คิมาแปลว่าหอย อะตาสแปลว่าข้างบน รวมๆกันแปลว่าหอยข้างบนสงสัยจะมีหอยจริงๆนะ (ห้ามคิดลึก) เพราะเห็นผู้ชายอยู่คนหนึ่งงมหอยหรืออะไรก็ไม่รู้อยู่บนน้ำตกครับ
After Kima Atas Waterfall, we went back to the way to Manado but we turned left before to the road that leads to Bitung (the same way that we had taken a bus to Tangkoko Forest) to find Waruga, the old traditional grave of North Sulawesi people at Airmadidi.
หลังจากนั้นเราก็ออกจากน้ำตกย้อนกลับทางเดิมไปทางมานาโด แต่จะเลี้ยวซ้ายก่อนถึงมานาโดตรงที่มีป้ายบอกทางถนนไปเมืองบีตุง (ทางที่เรานั่งรถไปป่าตังโกโกะ) เราไปทางนี้เพื่อจะไปตามหาวารูก้า หรือสุสานโบราณของคนสุลาเวสีเหนือครับที่แอร์มาดีดี
We turned right to when we arrived here to Waruka at Airmadidi.
มาถึงตรงนี้ก็เลี้ยวขวาเข้าไปครับ ไปหาสุสานโบราณที่แอร์มาดีดี
The entrance door. ประตูทางเข้าสุสานครับ
Waruga are Ancient Burial containers used by the Minahasa residents. Each was used by a family to bury their dead. The remains of as many as 6 people could be contained in one Waruga. During the Dutch Colonial period it was determined that this ritual was responsible for the spread of much disease and the practice was stopped. All remains were removed from the Warugas, as they remain today.
วารูก้าคือภาชนะหรือที่บรรจุศพของชาวมินาฮาซา ก็คือชาวสุลาเวสีเหนือครับ ซึ่งใช้บรรจุศพ วารูก้าบางอันสามารถบรรจุได้ถึง 6 ศพ แต่ได้มีการหยุดเก็บศพไว้ในวารูก้าสมัยล่าอาณานิคมของชาวดัตช์เพราะว่าเป็นที่แพร่เชื้อโรค ศพที่ยังเหลืออยู่ในวารูก้าก็ถูกเอาออกไปหมดเหลือแต่วารูก้าเปล่าๆจนปัจจุบันครับ
บนฝาด้านบนของวารูก้ามีลวดลายด้วยครับ
On the way back to the main road we got a flat tyre and had to change the inner and outside tyre. 25,000 Rp and 115,000 Rp. The little boy in the pictures helped us to change it, we tipped him 30,000 Rp. Then we came back to the way to Manado but before Manado we saw the sign at a T-junction to the way to Tomohon and Tondano. We wanted to go to Lake Tondano again, so we turned to that way.
ขากลับยางแบนครับ ล้อแตกทั้งยางในยางนอก รถตาลุงเจ้าของมอเตอร์ไซต์แกปะแล้วปะอีกครับยางในหลายแผลมากก็เลยเปลี่ยนให้ใหม่หมดเลยไม่ต้องปะ ยางนอกดอกยางก็ไม่เหลือแล้ว เปลี่ยนให้ลุงแกไปเลยละกันแกคงจะดีใจที่เราเปลี่ยนเอาของใหม่ให้ ค่ายางใน25,000 Rp (100 บาท) ยางนอก 115,000 Rp (460 บาท) ราคาพอๆกับบ้านเราครับ แต่ยางนอกราคาบ้านเขาจะแพงกว่าบ้านเรา ผมให้ทิปน้องในรูปไปสามหมื่นรูเปียห์ เห็นตัวเล็กๆอย่างนี้อายุไม่น่าจะเกินสิบสอง ปะยางเปลี่ยนล้อชำนาญมากครับเก่งจริงๆ
เปลี่ยนยางเสร็จก็ย้อนกลับมาทางเดิมอีกครับทางที่จะกลับมานาโด แต่ระหว่างทางเราเจอสามแยกที่มีป้ายบอกทางไปเมืองโตโมฮอนและทอนดาโนได้ เราก็เลยเลี้ยวซ้ายไปตามทางนั้น เพราะอยากไปหาอะไรกินที่ร้านอาหารริมทะเลสาบทอนดาโนอีกรอบ
We followed the way very long and wasted a lot of time to reach to Tondano (about 3 hours, because the way we passed was the way in the mountain area). During the way we also passed this statute. we didn't know what it means.
เราขี่มอเตอร์ไซต์ไปตามทางเรื่อยๆซึ่งไกลและเสียเวลาหลายชั่วโมงกว่าจะถึงทอนดาโน(ประมาณสามชั่วโมงเห็นจะได้เพราะถนนเป็นทางที่ผ่านหุบเขาหลายลูกมากๆ) ผ่านมาเจอรูปปั้นแบบนี้ด้วยไม่รู้มันคืออะไร
We arrived Tondano Town nearly 4:30pm. but had to go back to Manado immediately because we left not much time to return the motorbike at 7:00 pm. (normally 6:00 pm. but we rented quite late this day so we requested to return at 7:00 p.m.)
มาถึงเมืองทอนดาโนตอนบ่ายแก่ๆประมาณสี่โมงครึ่ง ก็ต้องรีบกลับมานาโดเลยเพราะเหลือเวลาไม่มาก ต้องคืนรถตอน 1 ทุ่ม (ขอลุงแกไว้เพราะเราเช่าตอนสายแล้ว)
We arrived Manado earlier than the expected time so we stopped at Manado bay at Pierre Tendean Road (Boulevard) to see the local people doing their activities. They were doing fishing, jet skiing, relaxing on the beach.
เรามาถึงมานาโดเร็วกว่าที่ตั้งเวลาไว้ก็เลยแวะอ่าวมานาโดดูวิถีชีวิตชาวมานาโดที่ถนนถนนปีแอร์ เท็นแดน ดูชาวมานาโดตกปลา เล่นเจ็ตสกี พักผ่อนนั่งเล่นตามริมหาด
Sunset at Mando Bay. We had dinner in a restaurant nearby Manado Bay then went back to Celebes Hotel and returned the motorbike to the owner. He looked so happy as we changed the new tyres.
ชมพระอาทิตย์ตกดินเหนืออ่าวมานาโดครับ หลังจากนั้นเราก็กินข้าวเย็นในร้านอาหารริมหาดแถวนั้นก่อนกลับที่พักเพื่อคืนรถมอเตอร์ไซต์ครับ ลุงเจ้าของรถแกดีใจใหญ่เลยที่เราเปลี่ยนยางนอกยางในอันใหม่ให้แก
บทความถัดไป : วิหาราบุดดายานา ทะเลสาบลิโนว์ น้ำพุร้อนที่รูรูกัน
Previous topic : Bunaken Island
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น