วันพฤหัสบดีที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2555

Morning Trekking Trip in Tangkoko Forest ทริปเดินป่าตอนเช้าที่ป่าตังโกโกะ

The morning trip normally should start at 5:30 a.m. but it rained very heavy all night long so the trip was started late to be at 6:30 a.m. Semual already waited for us to make the trip. We walked out from the homestay to the forest again and paid the same price as the evening trip 85,000 Rp per person. The first picture is the wild pig but not really clear.


ทริปเดินป่าตอนเช้าปกติจะเริ่มตอนตีห้าครึ่ง แต่เมื่อตอนกลางคืนฝนตกลงมาตลอดทั้งคืนเลย ตอนแรกนึกว่าทริปจะต้องยกเลิกไปแล้วแต่พอเดินออกไปนอกห้อง เซอมูเอ็ลรอเราอยู่แล้วครับฝนซาเม็ดลงแล้วก็เริ่มทริปออกจากโฮมสเตย์ตอนหกโมงครึ่ง เดินเข้าไปในป่า จ่ายค่าทริปที่ทางเข้าคนละ 85,000 รูเปียห์ เหมือนทริปเมื่อตอนค่ำแล้วก็เดินเข้าไปในป่าเช่นเคยครับ ภาพแรกก็เป็นหมูป่าครับแต่ว่ามองไม่ชัดครับ


The next picture is the pavilion inside the forest. Along the way inside the forest we will see the pavilion look like this until end of the road way before the deeper forest. But we did not stop in any pavilion.
ภาพที่สองเป็นภาพศาลาที่พักริมทางครับ ทริปเมื่อวานไม่ได้ถ่ายเอาไว้ ในป่าตังโกโกะจะเจอศาลาแบบนี้เป็นระยะๆครับจนกว่าจะสุดทางเดินก่อนถึงทางเข้าไปในป่าลึกครับ แต่ไม่ได้แวะพักนะครับเพราะเราจะเดินกันแบบนอนสต็อปครับ


Semuel walked very fast we had to run sometimes. We walked along this way about 20 minutes before entered to the deeper jungle.
เซอมูเอ็ลเดินเร็วมากๆครับ บางทีเราก็ต้องวิ่งตาม เพื่อนผม (บังเละ) กลัวตะขาบครับก็เลยโดนเซอมูเอ็ลหลอกตะขาบไปหลายที แต่จริงๆแล้วเราไม่เจอตะขาบหรืออะไรที่เป็นอันตรายเลยครับตลอดทั้งทริป จากถนนที่เราเดินเข้าไปประมาณ 20 นาที เซอมูเอ็ลก็พาเราเดินเข้าไปในป่าลึกครับทีนี้ไม่มีถนนแล้วมีแต่ทางที่มีร่องรอยคนเดิน



The first thing we met were the black macaques monkeys. They were running in the group from the deeper jungle to the way to the beach to find some fruit in the trees. When they passed to the way where we were standing we were frightened because so many many of them passing to us. Semuel said just stand still don't be worry. OK. we were safe.
เข้าไปในป่าได้พักหนึ่งเราก็ได้ยินเสียงครับ เสียงสัตว์เคลื่อนที่มาทางเรา มันคือลิงครับ ลิงตัวดำ เป็นสัตว์เฉพาะถิ่นของสุลาเวสีเหนือครับ พวกมันวิ่งมาทางเราเร็วมากๆ เราก็ตกใจกลัวว่ามันจะมารุมทำรายเพราะว่ามันเยอะจริงๆ



เซอมูเอ็ลบอกให้เราหยุดยืนอยู่นิ่งๆครับ มันก็วิ่งผ่านเราไปเป็นฝูงเลย พวกมันวิ่งจากทางในป่าลึกไปยังชายหาดครับ ที่มีต้นไม้ที่มีผลไม้อยู่ เซอมูเอ็ลบอกว่าบางทีมันก็ลงไปว่ายน้ำเล่นในทะเลด้วยนะครับถ้ามันร้อน แต่ราไม่เห็นมีตัวไหนลงไปว่ายน้ำเลย สงสัยเป็นเวลาเช้าแดดยังไม่ร้อนครับ มีแต่เจ้าตัวนี้ที่เราถ่ายมาได้ มันขึ้นไปอยู่บนต้นไม้ โพสท่าให้เราถ่ายรูป
This monkey is posting for us to take this picture


The beach inside the forest is not black like the beach inside Batuputih Village. At the beach we found some big flowers dropped on the sandy beach and the thing that I showed in this picture is it's fruit. I don't know what is it.

ชายหาดในป่าตังโกโกะไม่ได้ดำเหมือนที่หมู่บ้านบาตูปูติห์นะครับ เป็นหาดทรายขาวมีดอกไม้ใหญ่ๆหล่นตามพื้นดินเต็มเลย ไอ้ที่ผมจับอยู่ในรูป เซอมูเอ็ลบอกว่าเป็นผลไม้ของมัน ไม่รู้ชื่ออะไรจำไม่ได้แล้วครับ


There are many big and tall trees in Tangkoko Forest. We saw some hornbills in this kind of tree but did not take any picture becuase the camera that we had at that time was not the one that can zoom too much. When we stopped to see the birds, many black ants bit me. Because last night it rained quite heavey so they came from the sand a lot. And I wore only a slim socks and got bites a lot and it made me itchy about 2 months long. (So, always wear the thick socks and insert your pants's legs inside the socks.)
ในป่าตังโกโกะเต็มไปด้วยต้นไม้ต้นสูงๆและก็ใหญ่มากๆอย่างที่เห็นครับ อันนี้โคนต้นนะครับ ถ้าแหงนหน้าขึ้นไปดูคอเคล็ดครับเพราะว่าสูงมากๆ เราส่องดูนกเงือกกันครับที่ต้นไม้แบบนี้ เซอมูเอ็ลเอากล้องส่องนกมาให้ แต่เราไม่ได้ถ่ายรูปมาเลยครับเสียดายมากเพราะกล้องนะซีฮือๆๆ มันซูมได้ไม่เยอะ เซ็งจริงๆเลยครับ
เราหยุดดูนกกันแต่ละที มดมันเข้ามากัดเท้าผมเต็มเลยอ่ะ คันมากๆเลย เพราะตอนกลางคืนฝนตก มดก็เลยเยอะตอนเช้า ผมชล่าใจ (อีกแล้ว) ว่ามันคงไม่มีอะไรอันตรายเพราะว่าทริปเดินป่าเมื่อตอนกลางคืนไม่เห็นมีอะไรมารบกวนเลย ก็เลยใส่ถุงเท้าอันบางไป เชื่อมั้ยครับว่าพิษของเจ้ามดดำตัวเล็กๆแค่นี้ผมกลับมาเมืองไทยเกือบเดือนก็ยังไม่หายคันครับ ยิ่งตอนเหงื่ออกเพราะเราใส่ถุงเท้าทำงานด้วยแล้วคันมากๆครับ ต้องหยิกตุ่มใสๆที่ร่างกายเราขับพิษออกมาแล้วบีบน้ำเหลือกออกแล้วทายา ถึงจะหายครับ ที่จริงตอนโดนกัดก็คันนิดๆนะครับ แต่ในระยะยาว คันมากๆๆๆ


This are 3 trees hold together and made a big hole inside. We can climb up there.
อันนี้เป็นโพรงในต้นไม้นะครับ เป็นต้นไม้สามต้นประกอบกันแล้วก็พันกันมั่วไปหมด ก่อให้เกิดเป็นโพรงใหญ่ข้างใน สามารถปีนขึ้นไปได้ครับ
เซอมูเอ็ลบอกว่าถ้าขึ้นไปบางทีก็เจอนกเงือกด้วย แต่ผมว่ามันคงไม่อยู่หรอกตอนคนขึ้นไปน่ะ แล้วก็จะมีนักวิจัยขึ้นไปสังเกตการณ์พฤติกรรมของนกเงือกด้วยข้างบนนี้ แต่ดูนกเงือกที่ต้นไม้ต้นอื่นนะ ในโพรงนี้เขาใช้เป็นที่แอบนก


We climbed up there but not untill the top because it too high.
เซอมูเอ็ลบอกให้เราขึ้นไปดู แต่ไม่ถึงยอดครับ กลัวลื่นตกลงมาเพราะว่ามันเปียกฝนด้วย มือเลอะหมดเลย เซอมูเอ็ลบอกว่าข้างบนเราสามารถขึ้นไปนั่งได้เลยครับ ถ้าไม่เปียกก็คงขึ้นไปแล้วแหละครับ แต่นี่มันอี๊..เลอะมือไปหมดเลยครับ ไม่เอา ไม่ปีนดีกว่า

Then continued by bird watching again. แล้วก็หาดูนกอีกรอบครับ



We met another tourists in this trip when they were watching the hornbills too.

ไปเจอกับนักท่องเที่ยวฝรั่งอีกคูหนึ่ง คู้นี้มาจากอเมริกาครับ มาถึงโฮมสเตย์ดึกแล้ว เขาก็ออกมาทริปเดียวกับเราแต่ไกด์คนละคนกัน เราก็เลยดูนกเงือกด้วยกันครับ

After finished the trip we walked back to the homestay to have breakfast (They gave us just the jam and bread and 2 bananas) and checked-out later.
During the way back from Tangkoko to the homestay , we saw local people were washing the clothes in the canal.
เสร็จทริปแล้วก็เดินทางกลับที่พักครับ เจอชาวบ้านนั่งซักผ้าอยู่ริมคลองด้วย
ถึงที่พักก็กินอาหารเช้ามีแยมกับขนมปัง แล้วก็กล้วยคนละสองลูก (ไม่อิ่มครับเขาให้เรากินแค่นี้จริงๆ) แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะเราจะเช็คเอาท์แล้ว เดี๋ยวไปหากินเอาดาบหน้าละกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น